แชมเปี้ยนชิพ
สถิติพบกันทั้งหมด 28
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน แดนนี่ โรห์ล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ เนธาเนียล ชาโลบาห์, อาคิน ฟาเมโว, ไมเคิล อีเอคเว และ โอลาฟ โคบัคกี้
การจัดทัพตามสูตร 4-1-4-1 ยังประจำตำแหน่งด้วย แบร์รี่ แบนแนน, จอช วินดัสส์, มาร์วิน จอห์นสัน, ดิชอน เบอร์นาร์ด, อิเก้ อั๊กโบ, เช ชาร์ลส์ และ สวานเต้ อิงเกลส์สัน โดยมี จามาล โลว์, ไมเคิล สมิธ, เลียม พาลเมอร์, แอนโธนี่ มูซาบา และ เฌดี้ กัสซาม่า เป็นตัวสนับสนุน
ทีมเยือน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ยังคุมทีมโดยโค้ชรักษาการ โอเมอร์ ริซ่า เหลือผู้เล่นบาดเจ็บ อารอน แรมซีย์, โจ รอลส์ และ ไอแซค เดวีส์ แต่ คัลลัม โรบินสัน, จามิลู คอลลินส์, คิออน เอเตเต้ และ เรียวทาโร สึโนดะ ต้องทดสอบความฟิต
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยังออกสตาร์ทด้วย รูบิน โคลวิลล์, เดวิด เทิร์นบูลล์, คัลลัม โอดาวด้า, คริส วิลล็อค, โอลลี่ แทนเนอร์, อเล็กซ์ โรเบิร์ตสัน และ อันวาร์ เอล กาซี่ ทำให้ แอนดี้ รินอมโฮต้า, มาโนลิส ซิโอปิส, ยากู เมอิเต้, วิลฟรีด ก็องก้า และ เซียน แอชฟอร์ด ต้องรอโอกาส
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ฟอร์มระยะหลังในแชมเปี้ยนชิพยังขาดความต่อเนื่องจากการพ่ายในเกมล่าสุด ทำให้แพ้ 2 ใน 3 นัดหลัง แม้กำชัย 2 เกมจาก 4 นัดที่ผ่านมา แต่เกมเหย้าทำได้ดีขึ้นมาก
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ฟอร์มช่วงหลังในแชมเปี้ยนชิพตกลงไปจากการแพ้รวด 2 เกมหลัง รวมทั้งคว้าชัยเหลือเกมเดียวจาก 4 นัดหลัง และคว้า 4 คะแนนจาก 4 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเยือนทำได้ดีที่สุดเพียงเสมอ แมตช์นี้ "พิราบสีน้ำเงิน" ไม่ได้เป็นรองมากบุกแชร์แต้ม "นกฮูก"
