แชมเปี้ยนชิพ
สถิติพบกันทั้งหมด 25
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่นรองบ๊วย ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ของโค้ชชาวสแปนิช มาร์ตี้ ซิฟูเอนเตส มีลิสต์แข้งเจ็บ แจ็ค โคลแบ็ก, อิเลียส แคร์, มอร์แกน ฟ็อกซ์, เคนเน็ธ พาล, เจค คล๊าร์ก-ซอลเทอร์, ไมเคิล เฟรย์ และ คาราโมโก้ เดมเบเล่
การจัดทัพตามหมาก 3-4-2-1 ยังประจำตำแหน่งด้วย พอล สมิธ, ซาน เซลาร์, แซม ฟิลด์, สตีฟ คุ๊ก, ลูคัส แอนเดอร์เซ่น, โจนาธาน วาราน และ โคกิ ไซโต โดยมี เลียม มอร์ริสัน, เฮแวร์ตตัน ซานโตส, นิโคลัส มัดเซ่น และ แดเนียล เบนนี่ เป็นกองหนุน
ทีมเยือน สโต๊ค ซิตี้ ของโค้ชชาวสแปนิช ชิโช่ เปลัค เสีย แอชลีย์ ฟิลลิปส์ ไปจากอาการบาดเจ็บสมทบ แซม กัลลาเกอร์, เบน เพียร์สัน, เอ็นด้า สตีเว่นส์, ลินเดน กูช และ โมฮัมเหม็ด โบซุน ลาวัล รวมทั้ง วูเทอร์ เบอร์เกอร์ ติดโทษ
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ปรับ ลูอิส คูมาส และ ไมเคิล โรส สตาร์ทกับ ทอม แคนนอน กด 6 ลูกรั้งอันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ, แอนดรูว์ โมราน, มิลเลียน มานฮูฟ, ทัตสึกิ เซโกะ และ แบ จุน-โฮ พร้อมมี จอร์แดน ธอมป์สัน, เบน วิลม็อต, ไนออล เอ็นนิส และ อังเดร วิดิกัล เป็นตัวสอดแทรก
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ฟอร์มช่วงหลังในแชมเปี้ยนชิพตกลงไปอีกจากการเสมอ 3 นัดติด ก่อนแพ้รวด 2 เกมหลัง และควานหาชัยชนะเพิ่ม 11 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้าทำได้ดีที่สุดเพียงเก็บผลเสมอ
สโต๊ค ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังในแชมเปี้ยนชิพเล่นได้ดีขึ้นมากจากการควบคว้าชัย 2 นัด และเก็บผลเสมอในเกมล่าสุด อีกทั้งเกมเยือนทำได้ดีขึ้นมาก แมตช์นี้ สโต๊ค กำลังเล่นในทิศทางที่ดีบุกเจ๊า "ทหารเสือราชินี" กลับออกไปได้เป็นอย่างน้อย
