แชมเปี้ยนชิพ
สถิติพบกันทั้งหมด 22
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ของผู้จัดการทีม จอห์น ยูสเตซ ไม่มี สกอตต์ วาร์ตัน กับ อมาริโอ โคซิเออร์-ดูเบอร์รี่ บาดเจ็บ และ จอห์น บัคลีย์ กับ ลูอิส เบเกอร์ ต้องทดสอบความฟิต
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยังมี ไทร์ฮีส์ โดแลน, ลูอิส ทราวิส, โดมินิค ฮายแอม, โจ แรนกิน-คอสเตลโล่, ไรอัน เฮดเจส และ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ นำทัพ โดยมี อันดี้ ไวมันน์, แฮร์รี่ พิคเกอริง, คัลลัม บริตเทน, อาร์นอร์ ซิกูร์ดส์สัน และ ยูกิ โอฮาชิ เป็นตัวสนับสนุน
ทีมเยือน สโต๊ค ซิตี้ ของโค้ชชาวสแปนิช นาร์ซิส เปลัค มีลิสต์แข้งเจ็บ วูเทอร์ เบอร์เกอร์, แซม กัลลาเกอร์, เบน เพียร์สัน, ลินเดน กูช และ โมฮัมเหม็ด โบซุน ลาวัล
การจัดทีทัพตามแผน 4-2-3-1 ยังออกสตาร์ทด้วย ทอม แคนนอน, มิลเลียน มานฮูฟ, จอร์แดน ธอมป์สัน, เบน วิลม็อต, ลูอิส คูมาส และ แบ จุน-โฮ พร้อมมี แอชลีย์ ฟิลลิปส์, ไนออล เอ็นนิส, อังเดร วิดิกัล, เอริก จูเนียร์ โบกัต, จูเนียร์ ชามาเดว, เอ็มเร่ เทซเกล และ ทัตสึกิ เซโกะ เป็นกำลังสำรอง
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ฟอร์มระยะหลังในแชมเปี้ยนชิพฝืดจับจนแพ้รวด 2 เกมหลัง ทำให้เก็บผลเสมอแบบไม่มีสกอร์ 1 เกมจาก 3 นัดหลัง และคว้าชัยแค่เกมเดียวตอลด 6 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้าสะดุดไป
สโต๊ค ซิตี้ ฟอร์มช่วงหลังในแชมเปี้ยนชิพเล่นได้ดีขึ้นมากจากการพ่ายเกมแรกรอบ 5 นัด ก่อนคัมแบ็กเข้าวินรอบ 6 นัดที่ผ่านมาในเกมล่าสุด แม้เกมเยือนยังเอาแน่นอนไม่ได้ แต่แมตช์นี้ สโต๊ค อาศัยโอกาส แบล็คเบิร์น เสียขบวนบุกแบ่งแต้ม