แชมเปี้ยนชิพ

เจ้าบ้าน มิดเดิ้ลสโบรช์ หล่นจอดอันดับ 7 ผู้จัดการทีม ไมเคิล คาร์ริค เสีย ทอมมี คอนเวย์ เจ็บเพิ่มจาก จอนนี่ ฮาวสัน, ไอเด้น มอร์ริส, ดาร์ร่า เลนิแฮน, ลุค อายลิง, ทอมมี่ สมิธ, อเล็กซ์ บังกูร่า, มาร์คัส ฟอร์ส และ เซนี่ เดียง รวมทั้ง ราฟ ฟาน เดน เบิร์ก ติดโทษใบเหลืองสองเป็นใบแดงนัดล่าสุด

การจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ส่ง เอ็มมานูเอล ลัตเต้ ลัธ อันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ 9 ลูก กลับมาสตาร์ทกับ ฟินน์ อาซาซ กดเบิ้ลเกมล่าสุด, เฮย์เดน แฮ็คนีย์, ดาเนียล บาร์ลาเซอร์, เดล ฟราย, เดลาโน่ เบิร์กซอร์ก และ เบน โด๊ค พร้อมมี แมทธิว คล๊าร์ก, ไอซาห์ โจนส์, ไรลีย์ แม็คกรี และ ไมคาห์ แฮมิลตัน เป็นกำลังสำรอง

ทีมเยือน เบิร์นลีย์ ยังรั้งอันดับ 3 จี้จ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพ ลีดส์ ยูไนเต็ด และรองจ่งฝูง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต้มเดียวเท่ากัน ผู้จัดการทีม สก็อต พาร์คเกอร์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ นาธาน เร้ดมอนด์, อารอน แรมซีย์, มานูเอล เบนสัน, ยอร์ดาน เบเยอร์ และ เจเรมี่ ซาร์เมียนโต้ รวมทั้ง โจ วอร์รัลล์, จอห์น อีแกน และ ฮันเนส เดลครัวซ์ ต้องเช็คความฟิต

การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยึด 11 ตัวจริง จอช บราวน์ฮิลล์ กดเพิ่ม 9 ประตู ขึ้นอันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ, จอช คัลเลน, จอช ลอเรนต์, มักซิม เอสแตฟ, ไจดอน แอนโธนี่, ไซอัน เฟลมมิง และ ฮันนิบาล เมจบรี โดยมี เจย์ โรดริเกซ, ลูคัส เปเรซ และ ลูก้า โคลิโอโช่ เป็นตัวสอดแทรก