แชมเปี้ยนชิพ

เจ้าบ้าน บริสตอล ซิตี้ ยังจอดอันดับ 7 ตามทีมอันดับ 6 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน บนพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีก 2 แต้มเท่าเดิม ผู้จัดการทีม เลียม แมนนิง มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ ลุค แม็คนัลลี, รอสส์ แม็กครอรี่ และ โจชัว แคมป์เบลล์-สโลวีย์ รวมทั้ง นาห์กี้ เวลส์, จอร์จ แทนเนอร์, มาร์ค ไซค์ส, เฮย์ดอน โรเบิร์ตส์ และ นาห์กี้ เวลส์ ต้องเช็คความฟิต

การจัดทีมตามหมาก 3-4-2-1 ประจำตำแหน่งด้วย สก็อตต์ ทไวน์, เจสัน ไนท์, แม็กซ์ เบิร์ด, โรเบิร์ต ดิคกี้, แซ็ค วีเนอร์, ซินแคลร์ อาร์มสตรอง และ อานิส เมห์เมดี้ อันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ 12 ประตู โดยมี แฮร์รี่ คอร์นิค, โจ วิลเลียมส์, แซม เบลล์, จอร์จ เอิร์ธตี้ และ ยู ฮิรากาวะ เป็นตัวสอดแทรก

ทีมเยือน นอริช ซิตี้ ร่วงกลางตารางอันดับ 12 ตามทีมอันดับ 6 เวสต์บรอม เพิ่ม 7 คะแนน เทรนเนอร์ชาวเดนมาร์ก โยฮานเนส ฮอฟฟ์ โธรัป ยังมีลิสต์แข้งเจ็บยาว มาร์เซลิโน่ นูนเญซ, กาเบรียล ฟอร์ซิธ, ลูอิส ด็อบบิน, เลียม กิ๊บส์, เบน คริสซีน, ฟอร์สัน อามันควาห์, มาเตย์ ยูราเซ็ก และ โทนี่ สปริงเก็ตต์

การจัดทัพตามแผน 4-3-3 ยังออกสตาร์ทด้วย บอร์ฆา ซาอินซ์ ขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ 15 ลูก, เคนนี่ แม็คลีน, เจค็อบ โซเรนเซ่น, คัลลัม ดอยล์, อันเต้ เซอร์นัค, โฮเซ่ กอร์โดบา, อานิส เบน สลิมาน และ จอช ซาร์เจนท์ อันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพร่วม 12 ประตู พร้อมมี โอเนล เอร์นานเดซ, เชน ดัฟฟี่, เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส และ ออสการ์ ชวาร์เตา เป็นตัวสอดแทรก