ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 2
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บุกพ่าย ลิเวอร์พูล ขาดลอยเกมล่าสุดเป็นความพ่ายแพ้แรกในยูซีแอลแบบใหม่ ทำให้ยังซิวชัย 2 เสมอ 1 เก็บ 7 คะแนนเท่าเดิม รูดจากกลุ่มบนรั้งอันดับ 13 โค้ช ชาบี อลอนโซ่ เสีย มาร์กแต็ง แตร์ริเย่ร์ เจ็บเพิ่มจาก วิคเตอร์ โบนิเฟส, อามีน อาดิล, โยนาส ฮอฟมันน์, นอร์ดี้ มูคิเอเล่ และ ฌองนูแอล เบโลซิย็อง
การจัดทีมตามสูตร 3-4-2-1 ยึด กรานิต ชาก้า คุมกลางกับ เอเซเกล ปาลาซิออส ขนาบวิงแบ็ก เจเรมี่ ฟริมปง กับ อเล็กซ์ กรีมัลโด้ แนวรุกวาง โฟลเรียน เวียร์ทซ์ กับ อเล็กซ์ การ์เซีย ปั้นเกมหลัง พาทริค ชิค กดแฮตทริคในบุนเดสลีกาเกมล่าสุดค้ำหน้าต่อ โดยมี โรเบิร์ต อันดริช, นาธาน เทลล่า และ อาร์ตูร์ เป็นกองหนุน
ทีมเยือน ซัลซ์บวร์ก บุกคว่ำ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ประเดิมชัยในแชมเปี้ยนส์ ลีก รูปแบบใหม่ คว้า 3 คะแนน ปีนจากรองบ๊วยขึ้นอันดับ 30 บนตารางคะแนนยูซีแอล เฮดโค้ชชาวดัตช์ เป๊ป ลินเดอร์ส ต้องทดสอบความฟิตของ เมาริตส์ เคียร์การ์ด กับ สเตฟาน บายเซติช
การจัดทัพตามแผน 4-3-3 ยึด 11 ตัวจริง คาริม โกนาเต้ กระทุ้งแฮตทริคในยูซีแอลนัดล่าสุด, ออสการ์ กลูค, ลูกัส กูร์น่า-ดูอัต, นิโคลัส กาปัลโด้, คามิล เปียตคอฟสกี้, เนเน่ และ บ็อบบี้ คล้าร์ก พร้อมมี อาเมอร์ เดดิช, เฮนดรี แบลงก์, ยอห์น เมลเบิร์ก, มูสซ่า เยว และ ดาอูด้า กุนโด้ เป็นตัวสนับสนุน
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการเร่งขึ้นจากการทำได้ดีที่สุดเพียงเก็บผลเสมอ 2 ใน 3 นัดหลัง ก่อนกลับมาเข้าวินแรกรอบ 4 นัดที่ผ่านมาในเกมล่าสุด และเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำได้ดีขึ้นมาแล้ว
ซัลซ์บวร์ก ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการดร็อปไปจากการซิวชัย 2 ใน 3 นัดหลัง ก่อนแพ้รวด 2 เกมหลัง แต่เกมเยือนในแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำได้ดีขึ้นมาก แมตช์นี้ เลเวอร์คูเซ่น ลงล็อค และมีคุณภาพสูงเปิดรังถล่ม ซัลซ์บวร์ก