พรีเมียร์ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 64
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคุมทีมโดยโค้ชรักษาการ รุด ฟาน นิสเตลรอย มีลิสต์แข้งเจ็บ ค็อบบี้ ไมนู, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ อันโตนี่ ส่วน ลุค ชอว์, เมสัน เมาท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย และ เลนี่ โยโร่ ยังไม่สมบูรณ์ รวมทั้ง คริสเตียน อีริคเซ่น ต้องเช็คความฟิต
การจัดทัพส่ง นุสแซร์ มาซราวี กลับมายืนแบ็กขวา หุบ ลิซานโดร มาร์ติเนซ จับคู่เซ็นเตอร์แบ็กกับ มัตไธส์ เดอ ลิกต์ ปรับ มานูเอล อูการ์เต้ ตัดเกมกับ กาเซมิโร่ แนวรุกวาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หลัง ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงค้ำหน้าก่อน โจชัว เซิร์กซี
ทีมเยือน เชลซี ของผู้จัดการทีม เอ็นโซ่ มาเรสก้า ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน เจดอน ซานโช่ อยู่ในสัญญายืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด
ทำให้การจัดทีมกลับมาออกสตาร์ทด้วย 11 ตัวจริง โคล พาลเมอร์, นิโก้ แจ็คสัน, มอสเซส ไคเซโด้, รีซ เจมส์, โนนี่ มาดูเอเก้, ลีวาย โคลวิลล์ และ เปโดร เนโต้ ได้พักในลีก คัพ ทำให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มีคายโล มูดรีค, มาร์ก กูกูเรย่า และ ชูเอา เฟลิกซ์ ต้องรอโอกาส
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มช่วงหลังในพรีเมียร์ลีกโอนเอนจนพ่ายอีกในเกมล่าสุด ทำให้คว้าชัยแค่เกมเดียวจาก 5 นัดหลัง คว้า 5 คะแนนตลอด 5 นัดที่ผ่านมา และกำชัย 3 เกมจาก 9 นัดแรก แม้เกมเหย้าเริ่มทำได้ดีขึ้น
เชลซี ฟอร์มระยะหลังในพรีเมียร์ลีกยังเล่นได้ดีมากจากการเสมอกับแพ้ ก่อนกลับมาเข้าวินในเกมล่าสุด และกวาดชัย 4 เกมจาก 6 นัดที่ผ่านมา อีกทั้งเกมเยือนมักทำได้ดี แมตช์นี้ "ปีศาจแดง" เล่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ลงตัว และหวังผลได้มากกว่าบุกเจ๊าเป็นอย่างน้อย