พรีเมียร์ลีก


สถิติพบกันทั้งหมด 66
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม


เปรียบเทียบจุดเด่น


เปรียบเทียบทีม


สถิติการบุก


สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป

เจ้าถิ่น เชลซี ก้าวขึ้นอันดับ 6 กวดทีมอันดับ 5 นิวคาสเซิล บนพื้นที่ท็อปไฟฟ์ 2 แต้ม อันดับ 4 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3 คะแนน ผู้จัดการทีม เอ็นโซ่ มาเรสก้า เสีย มาโล กุสโต้ ไปจากอาการบาดเจ็บสมทบ เวสลีย์ โฟฟาน่า กับ มาร์ก กีว ส่วน โรเมโอ ลาเวีย กลับมาสมบูรณ์ และกำลังรอคืนสนาม
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยึด 11 ตัวจริงทั้งแบ็กโฟร์ คู่มิดฟิลด์ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ มอสเซส ไคเซโด้ แนวหน้า โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ และ โนนี่ มาดูเอเก้ สอดประสานหลัง นิโก้ แจ็คสัน ค้ำหน้า ส่วน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เตรียมกลับมาเป็นสำรองกับ เจดอน ซานโช่, จอช อาเชียมปง และ จอร์จ ไทริก

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ยังรั้งกลางตารางอันดับ 13 ผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่ม โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน, แยสเปอร์ ลินด์สตรอม, โอเรล ม็องกาล่า และ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ เจ็บหนักปิดเทอมฤดูกาลนี้ ด้าน อาร์มานโด้ โบรย่า หมดสิทธิ์ลงสนาม เพราะอยู่ในสัญญายืมตัวจาก เชลซี
การจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ปรับ เบโต้ และ ไมเคิล คีน สตาร์ทกับ อับดูลาย ดูกูเร่, แจ็ค แฮร์ริสัน, จาร์ราด แบรนธ์เวต, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, เจมส์ การ์เนอร์ และ อิลิม็อง เอ็นดิอาย โดยมี เดไวท์ แม็คนีล, แอชลีย์ ยัง, เชมัส โคลแมน, ทิม อิโรกบูนัม และ คาร์ลอส อัลการาซ เป็นกองหนุน
เชลซี ฟอร์มช่วงหลังในพรีเมียร์ลีกเร่งขึ้นจากการเก็บผลเสมอ 2 นัดรวด ก่อนกลับมาซิวชัยเกมล่าสุด และกำชัย 2 เกมจาก 4 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งยังมีเกมเหย้าแข็งแกร่ง
เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มระยะหลังในพรีเมียร์ลีกไม่สามารถรักษาความต่อเนื่องจากการประเดิมชัยรอบ 7 นัด ก่อนแพ้เกมล่าสุด ทำให้คว้าชยแค่เกมเดียวจาก 8 นัดหลัง และคว้า 8 คะแนนตลอด 8 นัดที่ผ่านมา แต่เกมเยือนทำได้ดีขึ้นมาก แมตช์นี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ยังเล่นในทิศทางที่ดีเปิดรังเฉือน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"
***
เรายืนหนึ่งด้าน เว็บวิเคราะห์บอล มีเซียนวิเคราะห์แม่นยำ ที่เหล่าแฟนลูกหนังไม่ควรพลาด

