พรีเมียร์ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 27
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น เชลซี ของผู้จัดการทีมคนใหม่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เสริมทัพปิดท้ายด้วย เจดอน ซานโช่ เป็นรายที่ 10 ต่อจากกว้านซื้อ เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, โตซิน อดาราบิโอโย่, เรนาโต้ เวก้า, เคเล็บ ไวลีย์, มาร์ก กีว, ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น, อารอน อันเซลมิโน่, เปโดร เนโต้ และ ชูเอา เฟลิกซ์
การจัดทีมยึด 4 ตัวรุก โคล พาลเมอร์, นิโก้ แจ็คสัน, มีคายโล มูดรีค และ โนนี่ มาดูเอเก้ กดแฮตทริคเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด และยิงกันรวม 5 ลูกนัดล่าสุด ทำให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, เปโดร เนโต้, มาร์ก กิว และ ชูเอา เฟลิกซ์ ต้องรอโอกาส
ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ของผู้จัดการทีม โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เสริมทัพวันเดดไลน์ตลาดซื้อ-ขายนักเตะซัมเมอร์ปี 2024 นี้ด้วย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กับ มักซ็องส์ ลาครัวซ์ แมตช์นี้ไม่มี มาเตอุส ฟรังก้า กับ ชาดี้ ริยาด บาดเจ็บ
การจัดทัพตามหมาก 3-4-2-1 ปรับ ชีค ดูกูเร่ กับ ไดจิ คามาดะ ประจำตำแหน่งพร้อม เอเบเรชี่ เอเซ่, อดัม วาร์ตัน, มาร์ค เกฮี, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, ไทริค มิตเชลล์ และ ดาเนียล มูนญอซ ส่วน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ มักซ็องส์ ลาครัวซ์ 2 ตัวใหม่ล่าสุดมีชื่อเป็นสำรองกับ วิลล์ ฮิวจ์ส, เจฟฟรีย์ ชลุปป์ และ อิสไมล่า ซาร์
เชลซี ฟอร์มออกซองซีซั่นใหม่ในทุกรายการไม่สามารถรักษาความต่อเนื่องจากการควบคว้าชัย 2 เกม ก่อนพ่ายในคอนเฟอเรนซ์ ลีก เกมล่าสุด และแพ้ 2 เกมจาก 4 นัดที่ผ่านมา แต่เกมเหย้าทำได้ดีขึ้นมาแล้ว
คริสตัล พาเลซ ฟอร์มเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ในทุกรายการเล่นได้ดีขึ้นมากจากการแพ้รวด 2 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ก่อนคัมแบ็กเข้าวินเกมล่าสุดในลีก คัพ อีกทั้งเกมเยือนมักทำได้ดี แมตช์นี้ "อินทรีผงาด" กลับมามีทรง และไม่ได้เป็นรองบุกท้าชนแชร์แต้ม "สิงโตน้ำเงินคราม" ที่เดอะ บริดจ์