พรีเมียร์ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 16
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน บอร์นมัธ ของผู้จัดการทีม อันโดนี่ อิราโอล่า มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ อเล็กซ์ สก็อตต์, หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า และ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า รวมทั้ง ด็องโก้ วาตาร่า กับ ฮูเลียน อาเราโฮ ต้องทดสอบความฟิต ส่วน ฟิลิป บิลลิง หายป่วย
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ส่ง เอวานิลสัน ซูเปอร์ซับตามตีเสมอ แอสตัน วิลล่า ช่วงทดเจ็บเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดกลับมาค้ำหน้า โดยมี มาร์คัส เทเวอร์เนียร์, อองตวน เซเมนโย่ และ จัสติน ไคลเวิร์ต เดินเกมรุกด้านหลัง ทำให้ เอเนส อูนาล กลับเป็นสำรองกับ ไทเลอร์ อดัมส์ และ เดวิด บรู๊คส์
ทีมเยือนจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เสีย มานูเอล อาคานจี กับ ซาวินโญ่ เจ็บจากคาราบาว คัพ เพิ่ม โรดรี้, แจ็ค กรีลิช, เจเรมี่ โดกู และ ออสการ์ บ็อบบ์ รวมทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ยังไม่สมบูรณ์
การจัดทัพตามสูตร 4-1-4-1 ส่ง เออร์ลิง ฮาลันด์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, มาเตโอ โควาซิช และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ตัวสำรองในลีก คัพ กลับมาเป็นตัวจริงพร้อม ฟิล โฟเด้น, อิลคาย กุนโดกัน, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, ริโก้ ลูอิส และ มาเตอุส นูเนส ส่วนม้านั่งสำรองเหลือ เนธาน อาเก้, เจมส์ แม็คอาตี้ และ นิโก้ โอไรลลี
บอร์นมัธ ฟอร์มช่วงหลังในพรีเมียร์ลีกเล่นได้ดีขึ้นมาแล้วจากการกลับมาเก็บชัยกับผลเสมอใน 2 นัดหลัง ทำให้กำชัย 2 เกมจาก 4 นัดหลัง และแพ้เกมเดียวจาก 4 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้าทำได้ดีขึ้นมาก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังในพรีเมียร์ลีกยังดีเยี่ยมจากการสะดุดเสมอ 2 นัดติด ก่อนเดินหน้าซิวชัยรวด 3 เกมหลัง ทำให้โกยชัย 7 เกมจาก 9 นัดแรก และเกมเยือนทำได้ดีเสมอ แมตช์นี้ "เรือใบสีฟ้า" ไม่ฟูลทีม แต่ประสิทธิภาพสูงมากพอบุกบี้ บอร์นมัธ