พรีเมียร์ลีก

เจ้าบ้าน คริสตัล พาเลซ แชมป์เอฟเอ คัพ และเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ผู้จัดการทีม โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เสริมทัพด้วย เยเรมี่ ปิโน่, คริสตันตัส อูเช่ และ เจดี้ คันโวต์ ก่อนตลาดปิด รวมทั้ง มาร์ก เกฮี พลาดย้ายออกไปวันเดดไลน์เตรียมคุมแนวรับต่อ แต่เสีย อิสไมล่า ซาร์ เจ็บสมทบ ชีค ดูกูเร่, ชาดี้ ริยาด และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

การจัดทีมตามสูตร 3-4-2-1 อดัม วาร์ตัน กับ วิลล์ ฮิวจ์ส คุมกลาง ขนาบวิงแบ็ก ดาเนียล มูนญอซ กับ ไทริค มิตเชลล์ แนวหน้าส่ง เยเรมี่ ปิโน่ ประสานงาน ไดจิ คามาดะ และ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ค้ำหน้า โดยมี เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า, โรแม็ง เอสเซ่ และ จัสติน เดเวนนี่ เป็นกองหนุน

ทีมเยือน ซันเดอร์แลนด์ คว้าแชมป์เพลย์ออฟเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพขึ้นพรีเมียร์ลีก ทีมของเทรนเนอร์ชาวเฟร้นช์ เรฌิส เลอ บริส ทุ่มเสริมทัพเพียบ กรานิต ชาก้า, ซิมง อาแด็งกร้า, ฮาบิบ ดิยาร์ร่า, เรนิลโด้, โนอาห์ ซาดิกี้, เคมสดีน ตัลบี้, โรบิน รูฟส์, อาร์ตูร์ มาซัวกู, โอมาร์ อัลเดเรเต้, นอร์ดี้ มูคิเอเล่, ลุตชาเรล เกียร์ทรุยด้า, เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ และ ไบรอัน บร็อบบี้

การจัดทัพตามแผน 4-3-3 สมาชิกใหม่ กรานิต ชาก้า, ฮาบิบ ดิยาร์ร่า, เรนิลโด้, เคมสดีน ตัลบี้, โอมาร์ อัลเดเรเต้, นอร์ดี้ มูคิเอเล่ และ โนอาห์ ซาดิกี้ สตาร์ทต่อกับ เอ็นโซ่ เลอ เฟ่, เทร ฮูม และ เอลีเซร์ มาเยนด้า ทำให้ แพทริค โรเบิร์ตส์, แดน นีล, คริส ริกก์, วิลสัน อิซิดอร์, ซิมง อาแด็งกร้า, ลุตชาเรล เกียร์ทรุยด้า, เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ และ ไบรอัน บร็อบบี้ ต้องรอโอกาส