แชมเปี้ยนชิพ

เจ้าบ้าน เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ทีมกลางตารางอันดับ 15 มีคะแนนเท่ากับทีมอันดับ 13-14 นอริช กับ คิวพีอาร์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน แดนนี่ โรห์ล ไม่มี มักซ์ โรว์ กับ ดิชอน เบอร์นาร์ด บาดเจ็บ ส่วน เนธาเนียล ชาโลบาห์, โดมินิก ยอร์ฟา, เลียม พาลเมอร์, อิบราฮิม ซิสโซโก้ และ ปอล บาเลนติน ต้องทดสอบความฟิต

การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ยังมี จอช วินดัสส์, แบร์รี่ แบนแนน, มาร์วิน จอห์นสัน, ไมเคิล สมิธ, เช ชาร์ลส์, สวานเต้ อิงเกลส์สัน และ เฌดี้ กัสซาม่า นำทัพ โดยมี คัลลัม พาเตอร์สัน, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, ยาน วาเลรี่, แอนโธนี่ มูซาบา, อิเก้ อั๊กโบ และ เรียว ฮัตสึเซะ เป็นกองหนุน

ทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ก้าวขึ้นจอดอันดับ 7 ตามทีมอันดับ 6 โคเวนทรี บนพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น 3 แต้มเท่าเดิม ผู้จัดการทีม ไมเคิล คาร์ริค ยังมีลิสต์แข้งเจ็บ ดาร์ร่า เลนิแฮน, ทอมมี่ สมิธ, ลุค อายลิง, อเล็กซ์ บังกูร่า, โซโลมอน ไบรน์, เซนี่ เดียง, เนโต้ บอร์เกส, เนโต้ บอร์เกส และ เบน โด๊ค ด้าน ไรลีย์ แม็คกรี กับ เดล ฟราย ต้องเช็คความฟิต

การจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ยึด 11 ตัวจริง ฟินน์ อาซาซ, เฮย์เดน แฮ็คนีย์, ไอเด้น มอร์ริส, มอร์แกน วิตเทกเกอร์, มาร์คัส ฟอร์ส, ซามูเอล อีลิง-จูเนียร์ และ ทอมมี่ คอนเวย์ อันดับ 4 ดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ 13 ประตู พร้อมมี เดลาโน่ เบิร์กซอร์ก, ดาเนียล บาร์ลาเซอร์, จอร์จ เอ็ดมุนด์สัน, ไรอัน กิลส์ และ เคเลชี อิเฮียนาโช่ เป็นตัวสอดแทรก