แชมเปี้ยนชิพ
สถิติพบกันทั้งหมด 21
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน ฮัลล์ ซิตี้ ของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ทิม วัลเทอร์ ยังมีลิสต์แข้งเจ็บ เลียม มิลลาร์, มาร์วิน เมห์เลม, ฮิลตัน คาร์ทไรท์, บาชีร์ เบลลูมี, ติโมเต้ โล-ตูตาล่า, อาบู กามาร่า และ สตีเว่น อัลซาเต้
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ปรับ ไรอัน ลองแมน และ คริส บาเดีย สตาร์ทกับ รีกัน สเลเตอร์, อัลฟี่ โจนส์, อับดุลกาดีร์ โอมูร์, ชูเอา เปโดร และ กุสตาโว ปูเอร์ต้า โดยมี เคซีย์ พาล์มเมอร์, ฌอน แม็คลอฟลิน, ซาเวียร์ ไซมอนส์ และ เมสัน เบอร์สโตว์ เป็นกำลังสำรอง
ทีมเยือน เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน แดนนี่ โรห์ล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ เนธาเนียล ชาโลบาห์, อาคิน ฟาเมโว, ไมเคิล อีเอคเว และ โอลาฟ โคบัคกี้
การจัดทัพตามสูตร 4-1-4-1 ประจำตำแหน่งด้วย แบร์รี่ แบนแนน, จอช วินดัสส์, มาร์วิน จอห์นสัน, ดิชอน เบอร์นาร์ด, อิเก้ อั๊กโบ, เช ชาร์ลส์ และ สวานเต้ อิงเกลส์สัน พร้อมมี จามาล โลว์, ไมเคิล สมิธ, เลียม พาลเมอร์, แอนโธนี่ มูซาบา และ เฌดี้ กัสซาม่า เป็นกองหนุน
ฮัลล์ ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังในแชมเปี้ยนชิพตกลงไปต่อเนื่องจากการเสมอ 3 เกมซ้อน ก่อนแพ้ติดตลอด 3 นัดหลัง และคว้า 3 คะแนนเพิ่ม 8 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเหย้าทำได้ดีที่สุดเพียงเก็บผลเสมอ
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ฟอร์มช่วงหลังในแชมเปี้ยนชิพต้องลุ้นหนักจากการแพ้กับเสมอ 2 นัดหลัง ทำให้คว้าชัยเกมเดียวจาก 4 นัดหลัง และคว้า 4 คะแนนใน 4 นัดที่ผ่านมา แต่เกมเยือนมักทำได้ดี แมตช์นี้ "นกฮูก" ไม่ได้เป็นรองบุกเสมอ "เสือโคร่ง"
