แชมเปี้ยนชิพ

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด กลับขึ้นรองจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพจี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงแต้มเดียว เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ดาเนียล ฟาเก้ เสีย จูเนียร์ ฟีร์โป ไปจากอาการบาดเจ็บสมทบ โจ เกล์ฮาร์ดท์, แซม บายรัม และ อิลย่า กรูฟ สวนทาง อีธาน อัมปาดู หายเจ็บเป็นสำรองเกมล่าสุด

การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 สลับ วิลฟรีด ญอนโต้ และ มักซิมิเลียน โวเบอร์ ออกสตาร์ทกับ แดเนียล เจมส์, โจ รอธเวลล์, โจ โรดอน, เบรนเดน แอรอนสัน, อาโอะ ทานากะ และ โจแอล ปิรู รัว 7 ประตู รั้งอันดับ 4 ดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ ทำให้ แพทริค แบมฟอร์ด, ลาร์จี้ รามาซานี่, โจชัว กีลาโวกี, มาเตโอ โจเซป และ มานอร์ โซโลมอน ต้องรอโอกาส

ทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ยังรั้งอันดับ 5 ตามจ่าฝูง 8 คะแนนเท่าเดิม ผู้จัดการทีม ไมเคิล คาร์ริค มีลิสต์แข้งเจ็บ ไอเด้น มอร์ริส, ดาร์ร่า เลนิแฮน, ทอมมี่ สมิธ, อเล็กซ์ บังกูร่า และ ลูคัส เอ็นเจล แม้ ราฟ ฟาน เดน เบิร์ก หายเจ็บ แต่ แมทธิว คล๊าร์ก, ลุค อายลิง และ มาร์คัส ฟอร์ส ต้องเช็คความฟิต

การจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ยึด 11 ตัวจริง ทอมมี คอนเวย์ กด 8 ลูก รั้งอันดับ 3 ดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ, ฟินน์ อาซาซ, เฮย์เดน แฮ็คนีย์, ดาเนียล บาร์ลาเซอร์, เดลาโน่ เบิร์กซอร์ก, อันเฟอร์นี่ ไดค์สตีล และ เบน โด๊ค พร้อมมี เอ็มมานูเอล ลัตเต้ ลัธ กด 7 ลูกในอันดับ 4 ดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ, ไรลีย์ แม็คกรี, จอนนี่ ฮาวสัน, ไอซาห์ โจนส์ และ ไมคาห์ แฮมิลตัน เป็นตัวสอดแทรก