เอเอฟซี แชมเปี้ยน ลีก อีลิท
สถิติพบกันทั้งหมด 1
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงไทยลีก บุกพ่าย โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เกมล่าสุดเป็นความพ่ายแพ้แรกในเอเอฟซี แชมเปี้ยน ลีก อีลิท ทำให้ยังเก็บชัย 2 เสมอ 1 คว้า 7 คะแนนเท่าเดิม ร่วงรั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยน ลีก อีลิท โซนตะวันออก โค้ชชาวบราซิเลียน ออสมาร์ ลอสส์ หมดสิทธิ์ใช้งาน ศศลักษณ์ ไหประโคน ติดโทษใบแดง
การจัดทัพตามหมาก 3-5-2 ปรับ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ประจำการพร้อม ธีราทร บุญมาทัน, ลูคัส คริสปิม, โกรัน เคาซิซ, กิลแยร์เม่ บิสโซลี, ดิออน คูลส์ และ ศุภชัย ใจเด็ด โดยมี รัตนากร ใหม่คามิ, มาเตอุส วาร์กาส, ไครเกอร์ ฟลอเรส และ มาร์เซโล่ ฌาโล่ เป็นกำลังสำรอง
ทีมเยือน คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ อัด เซี่ยงไฮ้ พอร์ต ในเอเอฟซี แชมเปี้ยน ลีก อีลิท นัดล่าสุด ทำให้ซิวชัยเพิ่ม 2 พ่าย 2 เก็บ 6 คะแนน ก้าวขึ้นอันดับ 8 บนตารางคะแนนเอซีแอล โค้ช โทรุ โอนิกิ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ เรียวตะ โอชิมะ, เซ ริคาร์โด้, เชเซล และ แพทริค แวร์ฮอน
การจัดทีมในระบบ 4-4-2 ประจำการด้วย เอริสัน, เคนโตะ ทาจิบานาดะ, ยาสุโตะ วากิซากะ, ชิน ยามาดะ, อาซาฮิ ซาซากิ, ยูกิ ยามาโมโตะ, ไซ ฟาน แวร์เมสเกอร์เคน และ มาร์ซินโญ่ พร้อมมี ยู โคบายาชิ, อากิฮิโระ อิเอนากะ และ ไดยะ โทโนะ เป็นกองหนุน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการกลับมาเล่นได้ดีมากจากการแพ้กับเสมอ ก่อนกลับมาควบเข้าวิน 2 เกมหลัง และกำชัย 3 เกมจาก 5 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้าในเอเอฟซี แชมเปี้ยน ลีก ทำได้ดีขึ้นมาก
คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการเล่นได้ดีขึ้นมาแล้ว แม้เก็บผลเสมอติด 2 นัดหลัง และคว้าชัยแค่เกมเดียวตลอด 8 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเยือนในเอซีแอลสะดุดไป แมตช์นี้ บุรีรัมย์ คืนฟอร์ม และรักษาความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านบู๊แบ่งแต้ม ฟรอนตาเล่