เอฟเอ คัพ


สถิติพบกันทั้งหมด 29
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม


เปรียบเทียบจุดเด่น


เปรียบเทียบทีม


สถิติการบุก


สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป

คริสตัล พาเลซ เคยเป็นรองเอฟเอ คัพ 2 ครั้ง (1989-90 และ 2015-16) ผู้จัดการทีม โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เหลือผู้เล่นบาดเจ็บ ชีค ดูกูเร่ กับ ชาดี้ ริยาด หลัง อดัม วาร์ตัน หายเจ็บกลับมาซ้อมกับทีมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วน วิลล์ ฮิวจ์ส, มาร์ค เกฮี, เบน ชิลเวลล์ และ มาเตอุส ฟรังก้า ต้องทดสอบความฟิต
การจัดทัพตามหมาก 3-4-2-1 อดัม วาร์ตัน อาจฟิตทันตัดเกมกับ เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า ขนาบวิงแบ็ก ดาเนียล มูนญอซ กับ ไทริค มิตเชลล์ เกมรุกยึด เอเบเรชี่ เอเซ่ ซัดเบิ้ลเกมลีกล่าสุด ยิงติด 4 นัดที่ผ่านมาในทุกรายการ รวม 5 ประตู กับ อิสไมล่า ซาร์ หลัง ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ค้ำหน้า พร้อมมี ไดจิ คามาดะ, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, จัสติน เดเวนนี่ และ โรแม็ง เอสเซ่ เป็นตัวสอดแทรก

รองแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอ คัพ มากเป็นอันดับสี่ 7 สมัย เข้าชิงชนะเลิศถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลก 3 ปีติดต่อกัน ผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้ และ ออสการ์ บ็อบบ์ หายเจ็บ รวมทั้ง โรดรี้ กลับมามีชื่อในทีม และมีโอกาสเป็นตัวสำรองนัดนี้ ส่วน เออร์ลิง ฮาลันด์ ฟิตสมบูรณ์เป็นตัวจริงเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ส่ง อิลคาย กุนโดกัน, โอมาร์ มาร์มูช และ ซาวินโญ่ สตาร์ทกับ เควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิง ฮาลันด์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, รูเบน ดิอาซ, มาเตโอ โควาซิช และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำให้ ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช, เจเรมี่ โดกู, นิโก้ กอนซาเลซ และ นิโก้ โอไรลีย์ ต้องรอโอกาส
เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศบนเมกะสังเวียนเวมบลีย์ สเตเดี้ยม ระหว่าง คริสตัล พาเลซ ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการยังเล่นได้ดีขึ้น เมื่อกลับมาเก็บชัยเกมล่าสุด ทำให้คว้าชัย 2 ใน 3 นัดหลัง และไม่แพ้เพิ่ม 5 นัดที่ผ่านมา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการยังดีเยี่ยมจากกการกวาดชัย 5 นัดติด แม้เสมอไร้สกอร์หยุดผลงานชนะรวดเกมล่าสุด แต่ไร้พ่ายหลัก 10 นัดที่ผ่านมา แมตช์นี้ "อินทรีผงาด" เฮดทูเฮดเป็นรองชัดเจน แต่กลับมาเล่นในทิศทางที่ดี และไม่ได้เป็นรองมากยื้อยันเสมอ "เรือใบสีฟ้า" ไหวในเวลาปกติ
***
เรายืนหนึ่งด้าน เว็บวิเคราะห์บอล มีเซียนวิเคราะห์แม่นยำ ที่เหล่าแฟนลูกหนังไม่ควรพลาด

