ลาลีกา
สถิติพบกันทั้งหมด 44
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
เปรียบเทียบทีม
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าบ้าน แอธเลติก บิลเบา ก้าวขึ้นอันดับ 4 ตามจ่าฝูงลาลีกา บาร์เซโลน่า 11 คะแนน แมตช์นี้เฮดโค้ช เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ อันเดร์ เอร์เรร่า ส่วน อูไน ซิมอน มือ 1 หายเจ็บกลับมาเฝ้าเสาแล้ว และ เบนญาต ปราดอส พ้นโทษสะสมใบเหลือง
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ส่ง ออยอาน ซานเซต ซูเปอร์ซับซัดเหมาเกมล่าสุด และ เบนญาต ปราดอส กลับมาสตาร์ทกับ นิโก้ วิลเลียมส์, อินญากี้ วิลเลียมส์, กอร์ก้า กูรูเซต้า, ยูริ และ รูอิซ เด กาลาร์เรต้า โดยมี อเล็กซ์ เบเรนเกร์, อูไน โกเมซ, มิเกล เจาเรกิซาร์, นิโก้ เซร์ราโน่ และ อัลบาโร่ ฌาโล่ เป็นกำลังสำรอง
ทีมเยือน เรอัล มาดริด กลับมารั้งรองจ่าฝูงลาลีกาไล่ บาร์ซ่า 4 คะแนน และลงสนามน้อยกว่า 2 นัด โค้ช คาร์โล อันเชล็อตติ มีลิสต์แข้งเจ็บ วินิซิอุส จูเนียร์, ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา และ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า รวมทั้ง ดาวิด อลาบา ยังเรียกความฟิต แต่ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กลับมาฟิต
การจัดทัพตามแผน 4-3-3 ส่ง ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กลับมายืนกองกลางตัวรับในแผงมิดฟิลด์กับ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ และ จู๊ด เบลลิงแฮม กดสกอร์ติดตลอด 3 เกมลาลีกาหลัง 3 ตัวรุกยึด โรดรีโก้, บราฮิม ดิอาซ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พร้อมมี ลูก้า โมดริช, อาร์ด้า กูแลร์ และ เอ็นดริค เป็นกองหนุน
แอธเลติก บิลเบา ฟอร์มช่วงหลังในลาลีกาเร่งขึ้นจากการเก็บผลเสมอ 3 นัดรวด ก่อนกลับมาเก็บชัยติด 2 เกมหลัง และกำชัย 3 เกมจาก 6 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้าทำได้ดีมาโดยตลอด
เรอัล มาดริด ฟอร์มระยะหลังในลาลีกาเด้งขึ้นจากการพ่ายศึกเอล กลาซิโก้ ก่อนคัมแบ็กเข้าวินรวด 3 เกมหลัง พร้อมกดสกอร์รวม 9 ลูก และเก็บ 3 คลีนชีต อีกทั้งเกมเยือนทำได้ดีขึ้นมาก แต่แมตช์นี้ บิลเบา กำลังห้าว และรักษาความได้เปรียบในบ้านบู๊แบ่งแต้ม "ราชันชุดขาว"
***
แฟนบอลทั้งหลายสามารถรับชมบอลออนไลน์ ลิงค์ดูบอลไม่กระตุก คลิกได้เลย
