ลาลีกา
สถิติพบกันทั้งหมด 33
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
เปรียบเทียบทีม
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น แอตเลติโก มาดริด รองจ่าฝูงลาลีกาตาม เรอัล มาดริด จ่าฝูง 2 แต้ม และลงสนามน้อยกว่า 1 นัด โค้ช ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เสีย โฮเซ่ มาเรีย กิเมเนซ ไปจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ โรแบ็ง เลอ นอร์ม็องด์ ฟิตสมบูรณ์แล้วเตรียมกลับมาคุมแนวรับ ส่วน โกเก้ กับ โตม่าส์ เลอมาร์ กลับมากับทีม
การจัดทีมในระบบ 4-4-2 ยึดแผงมิดฟิลด์ จูเลียโน่ ซิเมโอเน่, โรดริโก้ เด ปอล, ปาโบล บาร์ริออส และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ คู่หน้า อองตวน กรีซมันน์ ล่าตาข่ายกับ ฮูเลียน อัลวาเรซ ทำให้ อังเคล กอร์เรอา, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ, ซามูเอล ลิโน่, นาอวล โมลิน่า และ โรดริโก้ ริเกลเม่ ต้องรอโอกาส
ทีมเยือน โอซาซูน่า ทีมกลางตารางอันดับ 11 ของเฮดโค้ช บิเซนเต้ โมเรโน่ เหลือผู้เล่นบาดเจ็บ บรายาน ซาราโกซ่า หลัง นาโช่ บีดาล หายเจ็บ แต่ รูเบน เปนญ่า กับ อูไน อาร์เซีย ต้องทดสอบความฟิต ส่วน กาเตน่า พ้นโทษสะสมใบเหลือง
การจัดทัพตามแผน 4-3-3 ยึด ไอมาร์ โอลอซ, รูเบน การ์เซีย, โจน มอนกาโยล่า, ลูกัส ตอร์โร่, ฆวน ครูซ, กิเก้ บาร์ฆา และ อันเต้ บูดิเมียร์ รั้งอันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวลาลีกา 10 ประตู โดยมี ปาโบล อิบันเญซ, ราอูล การ์เซีย, มอย โกเมซ, โฆเซ่ อาร์นาอิซ และ อิเกร์ มูนญอซ เป็นกองหนุน
แอตเลติโก มาดริด ฟอร์มระยะหลังในลาลีกาแรงดีไม่มีตก เมื่อโกยชัยราบคาบ 7 เกมหลัง รวมทั้งบุกล้ม บาร์เซโลน่า เกมล่าสุด และมีเกมเหย้าแน่นอน
โอซาซูน่า ฟอร์มช่วงหลังในลาลีกาไม่ดีเอาเสียเลยจากการเก็บผลเสมอ 4 นัดติดต่อกัน ก่อนเกมล่าสุด และคว้า 4 คะแนนตลอด 6 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเยือนยังทำได้ดี แมตช์นี้ "ตราหมี" ลงล็อค และเกมรุกหวังผลได้เสมอเปิดรังอัด โอซาซูน่า
***
ติดตามชม ไฮไลท์ฟุตบอลล่าสุด ได้ที่นี่ มีไฮไลท์ให้ดูได้ตลอด