ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 12
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด รองจ่าฝูงลาลีกา สเปน รีแมตช์ชิงบิ๊กเอียร์ย้ำชัย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในยูซีแอลเกมล่าสุด เก็บเพิ่ม 6 คะแนน ยังรั้งกลางตารางอันดับ 12 โค้ช คาร์โล อันเชล็อตติ เหลือผู้เล่นบาดเจ็บ ดานี่ การ์บาฆาล กับ ดาวิด อลาบา หลัง โรดรีโก้ หายเจ็บ เช่นเดียวกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ กลับมาซ้อม แต่ยังไม่พร้อมเฝ้าเสา
การจัดทีมในระบบ 4-4-2 ส่ง ลูก้า โมดริช เดินเกมแดนกลางกับ จู๊ด เบลลิงแฮม, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ และ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ คู่หน้า วินิซิอุส จูเนียร์ ล่าตาข่ายกับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ส่วน โรดรีโก้ กลับมาเป็นสำรองก่อนกับ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, บราฮิม ดิอาซ, อาร์ด้า กูแลร์ และ เอ็นดริค
ทีมเยือน เอซี มิลาน อัด คลับ บรูกก์ ปลดล็อคชัยในแชมเปี้ยนส์ ลีก แบบใหม่ คว้า 3 คะแนน ไต่จากกลุ่มล่างขึ้นอันดับ 25 แมตช์นี้เฮดโค้ช เปาโล ฟอนเซก้า มีปัญหานักเตะเจ็บ อิสมาเอล เบนนาเซอร์, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มัตเตโอ กับเบีย และ ลูก้า โยวิช
การจัดทัพตามแผน 4-3-3 ปรับ ราฟาเอล เลเอา, รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ ฟิคาโย่ โทโมรี่ ตัวสำรองในลีกสตาร์ทกับ คริสเตียน พูลิซิช, เตโอ แอร์กน็องเดซ, อัลบาโร่ โมราต้า, ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส และ ยุสซูฟ โฟฟาน่า โดยมี แทมมี่ อับราฮัม, ซามูเอล ชุควูเซ่, โนอาห์ โอคาฟอร์ และ ยูนุส มูซาห์ กลับเป็นสำรอง
เรอัล มาดริด ฟอร์มหลุดจากการพ่ายศึกเอล กลาซิโก้ หมดสภาพในลีกเกมล่าสุด พร้อมหยุดผลงานซิวชัย 3 เกมซ้อน แต่มีเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก แข็งแกร่งวางใจได้
เอซี มิลานฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการยังเล่นได้ดีมาก เมื่อคัมแบ็กเข้าวินในเกมล่าสุด ทำให้ซิวชัย 3 ใน 4 นัดหลัง และแพ้เกมเดียวจาก 4 นัดที่ผ่านมา อีกทั้งเกมเยือนในยูซีแอลทำได้ดีขึ้นมาก แต่แมตช์นี้ "ราชันชุดขาว" คุณภาพสูงเค้นฟอร์มเฉือน "ปีศาจแดง-ดำ"