ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 11
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
เปรียบเทียบจุดเด่น
เปรียบเทียบทีม
สถิติการบุก
สถิติการครองบอล
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ไล่ต้อน เลเวอร์คูเซ่น ในยูซีแอลเกมล่าสุด ทำให้กวาดชัยเรียบ 4 นัดแรก โกย 12 คะแนนเต็มทีมเดียว ยึด จ่าฝูงแชมเปี้ยนส์ ลีก แบบใหม่ ผู้จัดการทีม อาร์เน่อ สล็อต ยังมีผู้เล่นบาดเจ็บ ดีโอโก้ โชต้า, อลีสซง เบ็คเกอร์ และ คอสตาส ซิมิกาส แม้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ เฟเดริโก้ เคียซ่า หายเจ็บกลับมาซ้อม
การดจัดทีมส่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กลับมาจับคู่มิดฟิลด์กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก แนวหน้า หลุยส์ ดิอาซ กลับมาดาหน้าบุกกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โดมินิค โซโบสไล หลัง ดาร์วิน นูนเญซ ค้ำหน้า ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นสำรองก่อนกับ เคอร์ติส โจนส์ และ โคดี้ กัคโป ต้องรอโอกาส
ทีมเยือนแชมป์เก่า เรอัล มาดริด เจ้าของ แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ มากที่สุด 15 สมัย และ รองจ่าฝูงลาลีกา พ่าย เอซี มิลาน คารังในยูซีแอลเกมล่าสุด ทำให้ยังกำชัย 2 แพ้เพิ่ม 2 เก็บ 6 คะแนนเท่าเดิม รูดกลางตารางอันดับ 18 โค้ช คาร์โล อันเชล็อตติ เสีย วินิซิอุส จูเนียร์ เจ็บเพิ่มจาก ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา และ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ส่วน โรดรีโก้ กับ ดาวิด อลาบา ยังไม่ฟิต ด้าน ลูกัส บาซเกซ กลับมามีชื่อนัดนี้
การจัดทัพปรับแผนเล่น 4-2-3-1 ลูกัส บาซเกซ กลับมายืนแบ็กขวา ลูก้า โมดริช คุมกลางกลาง เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ดัน เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ กลับมาเดินเกมบุกกับ จู๊ด เบลลิงแฮม และ บราฮิม ดิอาซ ป้อนหน้าเป้า คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โดยมี อาร์ด้า กูแลร์ กับ เอ็นดริค เป็นกองหนุน
ลิเวอร์พูล ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการสวยหรู เมื่อกวาดชัยเรียบ 5 เกมหลัง ทำให้โกยชัยเป็นกอบเป็น 13 ใน 14 นัดหลัง พ่วงไร้พ่ายตลอด 14 นัดที่ผ่านมา และมีเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก แข็งแกร่ง
เรอัล มาดริด ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการเด้งขึ้นจากการพ่าย 2 นัดรวด ก่อนกลับมาควบเข้าวิน 2 เกมหลัง พร้อมกดสกอร์รวม 7 ลูก และเก็บ 2 คลีนชีต ส่วนเกมเยือนในยูซีแอลมักทำได้ดี แมตช์นี้ "หงส์แดง" ฮอต แต่ "ราชันชุดขาว" คืนฟอร์มบุกท้าชนแชร์แต้ม