พรีเมียร์ลีก
สถิติพบกันทั้งหมด 64
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่น เชลซี ของผู้จัดการทีม เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องทดสอบความฟิตของ โคล พาลเมอร์ กับ เจดอน ซานโช่ กลับมาเป็นตัวเลือกหลังพลาดเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด เพราะอยู่ในสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การจัดทัพ โคล พาลเมอร์ อาจฟิตพร้อมออกสตาร์ทกับ นิโก้ แจ็คสัน, มอสเซส ไคเซโด้, รีซ เจมส์, โนนี่ มาดูเอเก้, ลีวาย โคลวิลล์ และ เปโดร เนโต้ ทำให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กับ ชูเอา เฟลิกซ์ กดเบิ้ลทั้งคู่ในคอนเฟอเรนซ์ ลีก รวมทั้ง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มีคายโล มูดรีค และ มาร์ก กูกูเรย่า ต้องรอโอกาส
ทีมเยือน อาร์เซน่อล ผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตต้า มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ เดแคลน ไรซ์, ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ, คีแรน เทียร์นีย์ และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ รวมทั้ง ไค ฮาแวร์ทซ์ กับ มิเกล เมริโน่ ต้องเช็คความฟิต ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง หมดสิทธิ์ลงสนามนัดนี้ เพราะอยู่ในสัญญายืมตัวจาก เชลซี
การจัดทีมในระบบ 4-4-2 ส่ง มาร์ติน โอเดการ์ด คืนสนามเป็นสำรองในแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นตัวจริงจับคู่มิดฟิลด์กับ โธมัส ปาร์เตย์ 4 ตัวรุกยึด บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ พร้อมมี กาเบรียล เชซุส, มิเกล เมริโน่ และ อีธาน เอ็นวาเนรี่ เป็นตัวสอดแทรก
เชลซี ฟอร์มระยะหลังในพรีเมียร์ลีกยังเล่นในทิศทางที่ดีด้วยการกลับมาเก็บชัยกับผลเสมอ 2 นัดหลัง แม้ซิวชัยเกมเดียวจาก 4 นัดหลัง และพ่ายเกมเดียวเพิ่ม 9 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้ายังทำได้ดีมากขึ้น
อาร์เซน่อล ฟอร์มช่วงหลังในพรีเมียร์ลีกยังดร็อปจนพ่ายอีกเกมล่าสุด ทำให้แพ้ 2 ใน 3 นัดหลัง และเก็บแต้มเดียวเท่านั้นจาก 3 เกมหลัง โดยเฉพาะเกมเยือนตกลงไปมาก แมตช์นี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ฟูลทีม และสดกว่าเปิดรังรุกหนักเจ๊า "ปืนใหญ่" เป็นอย่างน้อย