บุนเดสลีกา
สถิติพบกันทั้งหมด 17
ผลงาน 5 นัดหลัง ของทั้ง 2 ทีม
สถานการณ์ของทีม และสภาพทีมโดยทั่วไป
เจ้าถิ่นรองจ่าฝูง ไลป์ซิก โค้ช มาร์โค โรเซอ เสีย กัสเตลโล่ ลูเกอบา เจ็บเพิ่มจาก ชาวี ซิโมนส์, เดวิด เราม์ และ ซาเวียร์ ชลาเกอร์ รวมทั้ง เบนยามิน เฮนริคส์ กับ ลุตชาเรล เกียร์ทรุยด้า ต้องเช็คความฟิต
การจัดทีมในระบบ 4-4-2 ส่ง อาร์ตูร์ แฟร์เมียร์เรน กลับมาจับคู่มิดฟิลด์กับ อมาดู ไฮดาร่า ปีกขวา-ซ้ายยังวาง คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์ และ อันโตนิโอ นูซ่า คู่หน้า หลุยส์ โอเปนด้า ล่าตาข่ายกับ เบนจามิน เซสโก้ โดยมี ยุสซุฟ โพลเซ่น, เควิน คัมเพิล, อังเดร ซิลวา และ เอลิฟ เอลมาส เป็นตัวสอดแทรก
ทีมเยือน โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ของโค้ชชาวสวิส เคราร์โด้ เซโออาเน่ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ นิโค เอลเวดี้, ลูก้า เน็ทซ์, โชนาส องแล็ง, นาตาน เอ็นกูมู และ ยาน ยาค็อบ ออลชอฟสกี้
การจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ยังมี ยูเลียน ไวเกิล, โรบิน แฮ็ค, อลาสซาน เพลอา, ฟร้องค์ โอโนราต์, โค อิตาคุระ และ ทิม ไคลน์เดียนส์ท นำทีม พร้อมมี โฟลเรียน นอยเฮาส์, โตมัส คันคาร่า, เควิน สโตเกอร์, ฟิลิปป์ ซานเดอร์ และ ชิโอะ ฟูกูดะ เป็นกองหนุน
ไลป์ซิก ฟอร์มระยะหลังในบุนเดสลีกาสะดุดไปจากการกวาดชัย 4 นัดติด ก่อนพ่ายเกมแรกของฤดูกาล พร้อมหยุดผลงานชนะรวดลงในเกมล่าสุด แต่เกมเหย้ากำลังทำได้ดีมากขึ้น
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ฟอร์มช่วงหลังในบุนเดสลีกายังดีเยี่ยมด้วยการกลับมาเก็บชัยเกมล่าสุด ทำให้กำชัย 2 ใน 3 นัดหลัง และเก็บ 7 คะแนนจาก 3 เกมหลัง อีกทั้งเกมเยือนกระเตื้องขึ้น แมตช์นี้ "กระทิงแดง" ยังมีทีเด็ด และกุมความได้เปรียบในรังเฉือน "สิงห์หนุ่ม"
